aquaticworld
เต่าทะเล (Sea turtle)

ทำความรู้จักเต่าทะเลให้มากขึ้น

เต่าทะเล (Sea turtle) อยู่ในวงศ์ใหญ่  Chelonioidea บางครั้งเรียกว่าเต่าทะเลเป็นสัตว์ เลื้อยคลานเลือดเย็น ในอันดับ Testudines และอันดับย่อย Cryptodira เต่าทะเลที่มีอยู่ 7 สายพันธุ์ ได้แก่ เต่าหัวค้อน , เต่าตนุ , เต่ากระ , เต่าหญ้าแอตแลนติก , เต่าหญ้า , เต่าตนุหลังแบน และ เต่ามะเฟือง ที่อาศัยอยู่ในน่านน้ำมหาสมุทรของเรา ตั้งแต่พื้นหญ้าทะเลน้ำตื้นในมหาสมุทรอินเดีย ไปจนถึงแนวปะการังหลากสีสันของสามเหลี่ยมปะการังและหาดทรายของมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก แม้ว่าสายพันธุ์ที่มีการอพยพย้ายถิ่นสูงเหล่านี้จะขึ้นฝั่งเป็นระยะๆ เพื่อทำรัง แต่เต่าทะเลก็ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในมหาสมุทร

เต่าทะเลวิวัฒนาการมาเมื่อประมาณ 110 ล้านปีก่อน โดยบรรพบุรุษของพวกเขาเริ่มอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมทางทะเลโดยเฉพาะ เต่าทะเลสมัยใหม่ใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตในน้ำเพื่อผสมพันธุ์ หาอาหาร และแม้แต่นอนหลับ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่วางไข่ เต่าตัวเมียจึงออกผจญภัยบนบกเป็นระยะๆ เพื่อทำรังบนหาดทรายเขตร้อนถึงกึ่งเขตร้อน เต่าทะเลทุกตัวมีพฤติกรรมการสืบพันธุ์ที่คล้ายคลึงกัน แต่แต่ละสายพันธุ์มีความแตกต่างกันในด้านอาหารและแหล่งที่อยู่อาศัย

วงจรชีวิตของเต่าทะเล

แม่เต่าจะกลับขึ้นมาวางไข่บนพื้นทราย ประมาณ 120 ใบ และไข่จะถูกหย่อนลงก้นหลุมที่ขุดไว้อย่างดี ซึ่งหลุมนี้มันเลือกขุดบริเวณที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลจะท่วมได้ เมือกที่เคลือบไข่จะช่วยลดการสูญเสียน้ำภายในไข่ตลอดฤดูวางไข่ เมื่อราวเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคมแม่เต่าจะวางไข่แบบนี้ 2-4 รอบ แต่ละรอบจะห่างกัน 2 สัปดาห์ รวมแล้วเต่า 1 ตัวสามารถออกไข่ได้มากถึงเกือบ 500 ฟอง หลังฤดูวางไข่แม่เต่าจะพักฟื้นร่างกาย 2-5 ปี เพื่อสะสมพลังงานและทำหน้าที่อันสำคัญนี้อีกครั้ง ไข่เต่าจะใช้เวลาในการฟักตัวประมาณ 45 ถึง 70 วัน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิในขณะนั้น 

สภาพอากาศมีผลต่อเพศของลูกเต่า ถ้าหากไข่เต่าที่อยู่ปากหลุมถูกความร้อนจากแสงแดดมาก ก็มักฟักออกมาเป็นเพศเมีย ส่วนไข่ที่อยู่ก้นหลุมมักเป็นเพศผู้ เพราะอุณหภูมิต่ำกว่า เมื่อลูกเต่าฟักออกจากไข่มันจะรออีก 2-3 วันจนกระทั่งพี่น้องทุกตัวฟักออกจากไข่ เพื่อออกจากหลุมพร้อมกัน เพราะพวกมันรู้โดยสัญชาตญาณว่าหากลงทะเลพร้อมกันจะมีโอกาสรอดมากกว่า ลูกเต่าจะมุ่งหน้าสู่ทะเลลึกในทันที โดยใช้พละกำลังทั้งหมด 7 วันแรก ลูกเต่าสามารถอยู่ได้โดยไม่กินอาหารเพราะมีพลังงานจากไข่แดงที่สะสมไว้ในตัวอยู่แล้ว เมื่อหมดทุนที่แม่เต่าให้มาชีวิตจริงจึงเริ่มขึ้น พวกมันอาจมีชีวิตยืนยาวได้ถึง 80 ปี และข่าวร้ายก็คือมีเต่าร้อยละ 1 เท่านั้นที่จะมีอายุยืนยาวขนาดนี้

การจำแนกเต่าทะเล

ปัจจุบันมีเต่าทะเลทั้งหมด 7 ชนิด โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 วงศ์ย่อย คือ Cheloniidae ซึ่งเต่าทะเลส่วนมากจะอยู่ในวงศ์นี้ กับ วงศ์ Dermochelyidae ซึ่งมีเพียงชนิดเดียวเท่านั้น ได้แก่

วงศ์ Cheloniidae

  • เต่าหัวค้อน (Caretta caretta)
  • เต่าตนุ (Chelonia mydas)
  • เต่ากระ (Eretmochelys imbricata)
  • เต่าหญ้าแอตแลนติก (Lepidochelys kempii)
  • เต่าหญ้า (Lepidochelys olivacea)
  • เต่าตนุหลังแบน (Natator depressus)

วงศ์ Dermochelyidae

  • เต่ามะเฟือง (Dermochelys coriacea)

ความสัมพันธ์เต่าทะเลกับระบบนิเวศทางทะเล

เต่าทะเลเป็นส่วนเชื่อมโยงพื้นฐานในระบบนิเวศทางทะเล ช่วยรักษาความสมดุลของหญ้าทะเล และแนวปะการังที่เป็นประโยชน์ต่อสายพันธุ์ที่มีคุณค่าทางการค้า เช่น กุ้ง กุ้งล็อบสเตอร์ และปลาทูน่า เต่าทะเลเป็นตัวแทนของกลุ่มสัตว์เลื้อยคลานที่มีอยู่บนโลกและดำเนินชีวิตอยู่ในทะเล ในช่วง 100 ล้านปีที่ผ่านมา เต่ามีความสำคัญทางวัฒนธรรมและคุณค่าการท่องเที่ยวที่สำคัญ 5 ใน 7 สายพันธุ์พบได้ทั่วโลก ส่วนใหญ่อยู่ในน่านน้ำเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน อย่างไรก็ตาม อีกสองสายพันธุ์ที่เหลือนั้นมีระยะที่ค่อนข้างจำกัด : ริดลีย์เคมป์ พบส่วนใหญ่ในอ่าวเม็กซิโก และเต่าแบนทั่วออสเตรเลียตอนเหนือและปาปัวนิวกินีตอนใต้

6 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเต่าทะเล

เต่ามีอายุยืนแล้วยังเรียกได้ว่าเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์น้องๆไดโนเสาร์ เพราะมีหลักฐานพบว่าอาศัยอยู่ในสมัย 130 ล้านปีก่อน ว่าแล้วลองไปทำความรู้จักกับเต่าทะเลคุณทวดสุดเก๋ามากขึ้นกว่านี้ดีกว่าชอบ 6 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเต่าทะเล

  1. เต่าทะเลจัดเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่มีสายตาที่สั้นเมื่ออยู่บนบก แต่กลับตอบสนองได้ดีขึ้นเมื่ออยู่ใต้น้ำเนื่องจากการหักเหของแสงในน้ำ มีผลกระทบต่อสายตาของเต่าทะเลอย่างมาก
  2. อุณหภูมิมีผลต่อเพศของเต่าทะเลในแต่ละฤดูกาล เต่าตัวเมียจะวางไข่ทุกช่วงสัปดาห์ จนกว่าจะหมดท้อง ซึ่งบางตัวอาจจะมีถึง 1,000 ฟองเลยทีเดียว โดยเต่าทะเลจะทราบเพศได้เมื่อขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ ซึ่งหากอุณหภูมิอยู่ที่ 28-29 องศาเซลเซียส จะส่งผลให้มีโอกาสไข่ฟักออกมาเป็นตัวเมียและหากอุณหภูมิต่ำกว่านั้นจะส่งผลให้ไข่ฟักออกมาเป็นเพศผู้ 
  3. เต่าทะเลไม่มีฟัน แต่ปากและขาดกรรไกรของมันถูกสร้างจากสารเคลาติน โดยต่อออกมาจากกะโหลกส่วนหัวของเต่า เหมือนๆกับเล็บของเราที่สร้างมาจากสารเคลาติน 
  4. ทำไมเต่าถึงไม่สามารถออกจากกระดองได้ ก็เพราะว่ากระดองเปรียบเสมือนส่วนหนึ่งในร่างกาย และกระดองเต่าแท้จริงนั้นเป็นกระดูกที่มีจำนวนมากกว่า 50 ชิ้นส่วนตัวรวมกันเป็นกระดองที่แข็งแผ่นเดียว 
  5. เต่าทะเลเหมือนมีเครื่อง gps ธรรมชาติติดอยู่ในตัว เพราะเต่าทะเลคือนักเดินทางไกลที่ข้ามมหาสมุทร เพื่อหาอาหารและย้ายถิ่นที่อยู่หรือแม้กระทั่งขยายพันธุ์ แต่เต่าทะเลเพศเมียมักจะกลับมาวางไข่ที่ๆมันเกิดอยู่เสมอ แม้ว่ามันจะว่ายน้ำออกไปหลายพันไมล์ก็ตาม 
  6. อาหารสุดโปรดของเต่าทะเล ก็คือแมงกะพรุน จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เต่าคิดว่าถุงพลาสติกเป็นแมงกะพรุน แล้วกินพลาสติกเข้าไป
เต่าทะเล (Sea turtle)

การอนุรักษ์เต่าทะเล

เต่าทะเลส่วนใหญ่ถูกคุกคามหรือใกล้สูญพันธุ์ โดยทั่วไปแล้วเต่าเป็นสัตว์ที่จะโตช้า มีอายุยืนยาว และอพยพย้ายถิ่น ก่อนที่จะถึงวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งเต่าหลายตัวก็ถูกจับทั้งโดยตั้งใจหรือโดยบังเอิญ ในการประมงชายฝั่ง ระยะเวลาขั้นต่ำตั้งแต่ฟักออกมาจนถึงสืบพันธุ์ครั้งแรก ดูเหมือนจะอยู่ที่ประมาณ 10 ถึง 15 ปี ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดคือ D. coriacea และสายพันธุ์ที่เล็กที่สุดคือ L. kempiiและL. olivacea สัตว์อื่นๆ เช่น Chelonia mydas ต้องใช้เวลามากกว่า 20 ปีจึงจะบรรลุนิติภาวะและสืบพันธุ์ได้เป็นครั้งแรก

ดังนั้นทุกคนจะต้องช่วยกันอนุรักสัตว์ทะเลไม่ให้มีการประมงเพื่อดักจับสัตว์ และการทิ้งขยะลงทะเล เพราะเต่าทะเลอาจเข้าใจผิดว่าพลาสติกที่ลอยอยู่นั้นเป็น แมงกะพรุน และอาจทำให้พวกมันสำลักได้ในขณะที่กำลังพยายามกิน การเผชิญหน้าเหล่านี้มักเป็นอันตรายถึงชีวิต อุปกรณ์ตกปลาที่สูญหายหรือถูกทิ้ง – เรียกว่าเครื่องมือผี – เข้าไปพัวพันกับเต่าทะเลและอาจจมน้ำหรือทำให้เต่าไม่สามารถให้อาหารหรือว่ายน้ำได้ ขยะบนชายหาดสามารถดักลูกที่ฟักออกมาและป้องกันไม่ให้ลงสู่มหาสมุทร การรั่วไหลของน้ำมันยังเป็นพิษต่อเต่าทะเลทุกวัยอีกด้วย

บทความเพิ่มเติม : aquaticworld.info