ยินดีต้อนรับสู่โลกใต้ทะเล

ทะเล คืออะไร มีความเกี่ยวข้องกับสัตว์ทะเลอย่างไร
โลกที่มีพื้นน้ำเกือบ 3 เท่าของพื้นผิวโลก หรือร้อยละ 71 ของเปลือกโลก ที่อยู่ภายใต้การปะติดปะต่อกันของทะเล และมหาสมุทรสีน้ำเงิน ถูกสร้างขึ้นจากการปะทุของภูเขาไฟ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวงแหวนไฟ และฟองที่ผุดอยู่ใต้ทะเลคือแก๊สภูเขาไฟจากใต้ทะเลลึก และมีสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นที่ระรานตา เต็มไปด้วยความสวยงามที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้น และอุดมสมบูรณ์มากที่สุด
ดังนั้นมหาสมุทรของเรา จึงเต็มไปด้วยเรื่องราว ความลึกลับ และสัตว์ชนิดใหม่ๆ ที่รอให้ได้รับการเปิดเผย และนี่คือการเดินทางสู่โลกที่งดงามแต่เปราะบาง มหัศจรรย์ของทะเลสีฟ้าอันกว้างใหญ่ ที่มีสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่มากมายกว่า 230,000 ชนิด ทิวทัศน์ของท้องทะเลสิ่งมีชีวิตที่ทำให้โลกนี้มีสีสัน แนวประการังล้อมรอบ และเป็นที่อยู่ของสัตว์ใต้ท้องทะเลมากกว่าสถานที่แห่งใดในโลก สัตว์ทะเลมีความสำคัญต่อระบบนิเวศและโลกมนุษย์เป็นอย่างมาก
สัตว์ใต้ท้องทะเล สำคัญกับระบบนิเวศของโลก
สัตว์ที่อยู่ใต้ทะเล มีความสำคัญต่อระบบนิเวศของโลก เพราะเป็นแหล่งที่ช่วยหมุนเวียนสารอาหาร และยังเป็นแหล่งอาหารสำคัญสำหรับมนุษย์และสัตว์อื่นๆ สัตว์ใต้ทะเลช่วยในการฟอกน้ำทะเล ช่วยเพิ่มความสวยงามให้โลกใต้ท้องทะเลให้มีความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งสัตว์ใต้ท้องทะเลจะอาศัยซึ่งกันและกัน ดังนั้นสิ่งที่สำคัญเลยก็คือ มนุษย์จะต้องช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เราได้อาศัย เพื่อช่วยให้ทรัพยากรใต้ท้องทะเลอุดมสมบูรณ์มากที่สุด เพื่อรักษาความหลากหลายทางชีวภาพและความมั่นคงทางอาหารของโลก โดยไม่ทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ และช่วยกันตระหนักถึงความสำคัญของสัตว์ทะเล รักษาธรรมชาติอันเป็นสมบัติอันล้ำค่าของโลก

ลักษณะของสัตว์ทะเล
สัตว์ทะเลมีลักษณะรูปร่างแตกต่างการออกไป รวมถึงพฤติกรรม และถิ่นที่อยู่อาศัย เพราะสัตว์ทะเลบางชนิดอาศัยอยู่ในน้ำที่ลึกมากๆ และบางชนิดอาศัยอยู่น้ำตื้น แต่ลักษณะรูปร่างของสัตว์ทะเลส่วนใหญ่จะมีเกล็ดปกคลุมลำตัว หรือหนาม เพื่อป้องกันตัวเองจากศัตรูร้าย ที่อาจจะทำร้ายได้ สัตว์ทะเลบางชนิดมีผิวขรุขระ ผิวหยาบ เพราะมีพวกสารหินปูนที่เป็นองค์ประกอบ และบางชนิดมีลำตัวบาง เป็นโพรง มีช่องกลวงภายในลำตัว และสัตว์ทะเลบางชนิดก็มีอวัยวะพิเศษ อย่างเช่น ถุงลม ที่ช่วยในการหายใจใต้น้ำ และสามารถใช้ประโยชน์จากออกซิเจนในน้ำได้
การปรับตัวของสัตว์ทะเล
การหายใจ เป็นการปรับตัวที่จำเป็นที่สุดสำหรับสัตว์ทะเล กับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เนื่องจากสัตว์ทะเลจะต้องอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมทางน้ำ และหายใจด้วยเหงือกหรือหายใจแบบกระจาย และประกอบด้วยการดูดซับออกซิเจนผ่านผิวหนังและเหยื่อหุ้มเซลล์
ความเข้มข้นของเกลือ สัตว์ทะเล จะต้องอยู่ในสภาพที่ทนต่อความเข้มข้นของเกลือที่แปรผัน ให้เข้ากับความเค็มที่เปลี่ยนไป และมันพยายามปกป้องตัวเองด้วยวิธีการสัมผัสกับน้ำภายนอกให้น้อยที่สุด เพื่อป้องกันการสูญเสียเกลือแร่นั่นเอง
อุณหภูมิ สัตว์ทะเลเป็นสัตว์ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิมากที่สุด และเป็นตัวกำหนดช่วงเวลาสืบพันธุ์ และการวางไข่ ตลอดไปจนวิธีการสืบพันธุ์
ประเภทของสัตว์ทะเล
ประเภทของสัตว์ทะเล แบ่งออกเป็นหลากหลายประเภท ตามสภาพที่อยู่อาศัยและลักษณะระบบนิเวศ ซึ่งเป็นการขยายพันธุ์ของสิ่งที่มีชีวิต ตามสภาพความเป็นอยู่ที่หลากหลาย โดยโครงสร้างร่างกายของสัตว์ สามารถบ่งบอกถึงวิวัฒนาการและต้นกำเนิดของสัตว์ โดยการจัดตามประเภทหมวดหมู่ โดยใช้เกณฑ์ต่างๆในการแบ่งประเภท ดังนี้
1. สัตว์มีกระดูกสันหลัง (vertebrate) เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีกระดูกสันหลัง หรือไขสันหลัง เป็นสัตว์ที่มีการเจริญเติบโตด้วยอวัยวะที่ค่อนข้างซับซ้อน กระดูกสันหลังของสัตว์ทะเลเป็นแกนกลาง ที่จะเป็นส่วนที่ช่วยให้สัตว์ที่มีกระดูกสันหลังคงรูป และเป็นสัตว์ที่มีวิวัฒนาการที่สูงกว่าสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง โดยนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการวิจัยแล้วว่า สัตว์ที่มีกระดูกสันหลังแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้
- สัตว์พวกปลา
- สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ
- สัตว์เลื้อยคลาน
- สัตว์ปีก
- สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม
2. สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง (Invertebrate) สัตว์ทะเลส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง มีวิวัฒนาการเริ่มต้นมาจากสิ่งมีชีวิตเริ่มแรกในทะเล ไม่มีโครงกระดูกภายในลำตัว และมักเป็นสัตว์ที่มีขนาดเล็ก มีรูปร่างที่แตกต่างกัน และแบ่งตามลักษณะที่คล้ายคลึงกันออกไป 8 ประเภท ดังนี้
- พวกฟองน้ำ
- พวกสัตว์ลำตัวกลวงหรือเป็นโพรง
- พวกสัตว์ทะเลผิวขรุขระ
- พวกหนอนตัวแบน
- พวกหนอนตัวกลม
- พวกลำตัวเป็นปล้อง
- พวกมีขาเป็นข้อ
- พวกหอยและหมึกทะเล
มหัศจรรย์ใต้ท้องทะเล ที่ธรรมชาติรังสรรค์อย่างงดงาม
สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล อยู่ใต้พื้นผิวที่ปกคลุมด้วยมหาสมุทร ภายใต้ท้องทะเลสีคราม และยังมีหลายสิ่งที่มนุษย์ยังไม่เคยเห็นอีกมากมายใต้ท้องทะเล ที่มีความลึกโดยเฉลี่ย 4 กิโลเมตร เมื่อเทียบกับท้องทะเลที่อื่น ซึ่งภายใต้ท้องทะเลจะมีอุณหภูมิที่เย็น มืดทึบ และมีออกซิเจนที่น้อย ไม่เอื้อต่อชีวิตของมนุษย์ แต่ใต้ท้องทะเลกลับมีสิ่งมีชีวิตที่งดงามได้อาศัยอยู่ ซึ่งความงดงามใต้ท้องทะเลเต็มไปด้วยสัตว์น้ำต่างๆ และปะการัง ที่อาศัยอยู่ก้นทะเลลึกกว่า 6,000เมตร และมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส ล้วนแล้วมีแต่ความงดงามที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้นมาทั้งหมด
คำถามที่พบบ่อย
A: ปลาวาฬสีน้ำเงินเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุด มีความยาว 108 ฟุต (33 เมตร) และน้ำหนักสูงสุดกว่า 418,000 ปอนด์ (189,000 กิโลกรัม)
A: สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักคือ แบคทีเรีย พบในหินอายุ 3.8 พันล้านปี
A: ปลาปักเป้า เป็นสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่อันตรายมากที่สุด พิษร้ายแรงถึงขั้นฆ่ามนุษย์ได้ภายในไม่กี่นาที
A: ปลาหมึกยักษ์ เป็นสิ่งที่มีชีวิตที่แปลกที่สุด มีขนาดใหญ่ ฉลาด สามารถเปลี่ยนสี และรูปร่างได้อย่างรวดเร็ว
A: ปลากะตักมีขนาดเล็กและอาศัยอยู่ในฝูงขนาดใหญ่ ฝูงปลากะตักขนาดใหญ่สามารถมีจำนวนปลาได้หลายล้านตัว
A: สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล ได้แก่ โลมา วาฬ แมวน้ำ สิงโตทะเล พะยูน และนากทะเล
A: สัตว์ทะเลส่วนใหญ่มีการปรับตัวสำหรับการหายใจใต้น้ำ ปลามีเหงือกจะดูดออกซิเจนจากน้ำ ในขณะที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลมีปอดและต้องขึ้นผิวน้ำเป็นประจำเพื่อหายใจเอาอากาศเข้าไป
A: สิ่งที่หายากที่สุดคือ ปลาฉลามวาฬ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีประชากรเพียงไม่กี่พันตัวเท่านั้น
บทความเพิ่มเติม



วาฬสีน้ำเงิน เส้นทางสัตว์สี่เท้าเดินบนบกสู่การเป็นยักษ์ใหญ่ใต้ท้องทะเล
วาฬสีน้ำเงิน เส้นทางสัตว์




